3/28/2554

ภัยเงียบที่ทำให้มนุษย์เสียชีวิตมากที่สุด ที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน

ภัยเงียบที่ทำให้มนุษย์เสียชีวิตมากที่สุด ที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน..!


http://img.kapook.com/image/al.jpg


ครับหลายๆคนคงไม่เคยรู้มาก่อน ที่เรารู้ๆหรือเห็นๆกันตามข่าวหน้าหนังสือพิมพ์ คือการเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ มะเร็ง โรคร้ายแรงต่างๆ แต่จะมีซักกี่คนที่จะรู้ข้อมูลนี้


นั้นก็คือ "การขาดเอนไซม์นั้นเอง" โดยปรกติธรรมชาติร่างกายของมนุษย์จะมีทั้งขยะที่เกิดจากการกินอาหารที่ย่อยไม่สมบูรณ์ ไขมันส่วนเกิน ซากเซลล์ของอวัยวะต่างๆ ที่เสื่อมสภาพและตายลง ที่สำคัญ เราสร้างอนุมูลอิสระเองอันเกิดจากการหายใจนำเอาออกซิเจนเข้าไปใช้งาน ยังแถมสร้างเซลล์ผิดปกติออกมาตลอดเวลาจากการแบ่งตัวและสร้างเซลล์ใหม่ของ D N A นี่เป็นเพียงแค่เฉพาะในร่างกายของเราเท่านั้น ที่มีขยะอันเกิดจากการที่ชีวิตต้องมีชีวิตอยู่


   สังคมปัจจุบันมีแต่การเร่งรีบและแข่งขัน ถ้าในด้านการทำงานส่วนบุคคลก็สร้างความเครียดให้ไม่น้อยในแต่ละวัน ความเครียดคือศัตรูร้ายอย่างที่เราคาดไม่ถึง อันเนื่องมาจากอารมณ์ที่มีแรงกดดันต่ออาชีพการงานในการดำรงอยู่ของชีวิต และเจ้าอารมณ์นี้แหละที่ไปกดดันให้ระบบประสาทเกิดความตึงเครียด ทำให้หัวใจทำงาน หนักเพื่อสูบฉีดโลหิต ทำให้หลอดเลือดขยายตัวผิดปกติ ทำให้หายใจเร็วขึ้นปอดทำงานหนักขึ้น จึงเกิดแรงกดดันทั่วร่างกาย ร่างกายจึงรู้สึกถึงความไม่ปกติและความ ไม่ปลอดภัยต่อชีวิตก็ผลิตสารเคมีเพื่อต่อต้านและให้ผ่อนคลาย แต่ผลนั้นกลับตรงกันข้ามสาเคมีที่ผลิตออกมากลับเป็นพิษและทำลายเซลล์เนื้อ เยื่อต่างๆ เสียหาย ทำให้ อวัยวะอ่อนแอและทำงานด้อยประสิทธิภาพลง อวัยวะที่อ่อนแอเป็นเป้าโจมตีของเซลล์มะเร็ง ถ้าในด้านอุตสาหกรรมก็เร่งการผลิต ขยายธุรกิจให้ใหญ่ขึ้นเพื่อรองรับ กับการบริโภคจึงเกิดการแข็งขัน ความร้อนจากการผลิตทำลายสภาวะแวดล้อมเพิ่มอุณหภูมิให้โลกร้อนขึ้น เมื่อโรคร้อนขึ้นเชื้อแบคทีเรียก็ขยายพันธุ์ได้เร็วขึ้น ปล่อย สารเคมีลงน้ำในแม่น้ำทำลายระบบนิเวศธรรมชาติของสัตว์น้ำ ปล่อยแก็สพิษและควันพิษออกสู่บรรยากาศภายนอกสร้างมลภาวะที่เป็นพิษ ทั้งหลายที่กล่าวมานี้ล้วน สร้างอณุมูลอิสระให้ร่างกายทั้งสิ้นเพราะเราต้องอยู่ในสังคม เราต้องใช้ทรัพยากรธรรมชาติร่วมกัน เราใช้อากาศ น้ำ และสิ่งแวดล้อมร่วมกัน ควันพิษจากท่อไอเสีย รถยนต์เป็นสิ่งที่เลี่ยงได้ยากมากสำหรับชีวิตคนเมือง คาร์บอนไดออกไซน์เมื่อสูดเข้าระบบเดินหายใจสูงมากเกินปริมาณที่ร่างกายจะ กำจัดได้ ทำให้ระบบทางเดินหาย ใจเสียหาย ทำให้เลือดเสียหาย ทำลายอวัยวะภายในทุกระบบ แล้วชีวิตเราก็อยู่ในความเสี่ยงตลอดเวลาในทุกลมหายใจ ในอาหารทุกมื้อ แล้วเราจะปกป้องชีวิตเราได้ อย่างไร

    และแล้วธรรมชาติก็สร้างมนุษย์มาพร้อมกับเครื่องจักรอัจฉริยะที่สุด ที่ยังไม่สามารถหาเครื่องจักรที่มนุษย์คิดค้น และบอกว่านี้คือสุดยอดเทคโนโลยีมาเทียบได้เลย ร่างกายมนุษย์สามารถซ่อมตัวเอง ปกป้องตัวเองจากภัยคุกคาม การเจริญเติบโตของมนุษย์มาจากเซลล์เล็กๆ กว่า 100 ล้านล้านเซลล์ มีสมองที่เป็นระบบสั่งการที่ ซับซ้อนทั้งแบบกึ่งอัตโนมัติและแบบอัตโนมัติ มีประสาทโยงใยที่ค่อยส่งคำสั่งด้วยกระแสคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า มีหัวใจเป็นปั๊มขนาดเล็กที่ทรงพลังมีหน้าที่สูบฉีดโลหิต ไปเลี้ยงเซลล์ในอวัยวะส่วนต่างๆ ของร่างกาย มีปอดไว้กรองออกซิเจน มีตับไว้ชำระล้างสารพิษ มีไตคอยรับของเสียจากร่างกายและขับออกทิ้ง มีต่อมไร้ท่อที่ค่อยผลิต ฮอล์โมนและสารเคมีเพื่อควบคุมการทำงานด้านอารมณ์ มีเซลล์กล้ามเนื้อมากกว่า 10,000 มัดที่ไว้ใช้ในการพยุงร่างกายให้เดินทางไปไหนมาไหนได้อย่างคล่องตัว มีกระดูกเป็นเกราะค่อยป้องกันอวัยวะภายในจากความเสียหายจากภายนอก สร้างเซลล์ผิวหนังไว้เพื่อห่อหุ้มร่างกายเพื่อปกป้องทั้งชีวิตและอีกมากมาย หลายหน้าที่ใน หลายๆอวัยวะ

    การมีชีวิตอยู่ของมนุษย์ต้องใช้พลังงาน และพลังงานก็มาจากสารอาหาร และสารอาหารก็มาจากอาหารที่เรากินเข้าไป ขบวนการทั้งหมดจะเปลี่ยนสภาพจากอาหาร เป็นสารอาหารและเป็นพลังงานได้ต้องใช้เอ็นไซม์เป็น ตัวย่อย และเร่งปฏิกิริยาให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งสิ้น อาหารจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดอันดับแรกของการดำรง ชีวิตมนุษย์ เมื่อเซลล์ได้รับสารอาหารที่ดีและมีคุณภาพเซลล์ก็แข็งแรง ถ้าเป็นเซลล์หัวใจ หัวใจก็แข็งแรง ถ้าเป็นเซลล์ปอด ปอดก็แข็งแรง ถ้าเป็นเซลล์ตับ ตับก็แข็งแรง เป็นต้น โดยปกติเซลล์ ดี เอ็น เอ (D N A) ของร่างกายจะมีการแบ่งตัวสร้างเซลล์ใหม่ทดแทนกันทุกวัน เพราะเนื่องจากความเสื่อมสภาพของเซลล์อันเป็นผลมาจาก เสื่อมสภาพโดยธรรมชาติ หรือเสื่อมสภาพจากการขาดสารอาหาร หรือเสื่อมสภาพจากถูกอณุมูลอิสระโจมตี ถ้าโดยปกติเซลล์ ดี เอ็น เอ แข็งแรงและไม่มีอณุมูลอิสระ มาทำลายโครงสร้างบางส่วนก็จะแบ่งตัวเซลล์ใหม่ได้สมบูรณ์ แต่ถ้าเซลล์ ดี เอ็น เอ ไม่แข็งแรงก็อาจจะเกิดความผิดพลาดในการแบ่งตัว ทำให้เกิดเซลล์ผิดปกติขึ้น ซึ่ง เซลล์ผิดปกติก็ไม่สามารถรวมตัวอยู่กับเซลล์ปกติของอวัยวะนั้นๆได้ก็ต้องรอน เร่ไปตามกระแสโลหิต และคอยหลบเซลล์เพชฌฆาตหรือเซลล์เม็ดเลือดขาว ด้วยการใช้ เศษโปรตีนที่ย่อยไม่สมบูรณ์ สารอาหาร และซากเซลล์ที่ตาย มาเป็นอาหารและสร้างเป็นเปลือกห่อหุ้มตัวเองให้พ้นอันตรายจากเซลล์เพชฌฆาต เซลล์เม็ดเลือดขาว หรือเซลล์เพชฌฆาตนั้นโดยหน้าที่หลักคือการตรวจจับและทำลายเซลล์ผิดปกติและ เชื้อโรคที่บุกรุก ในขณะที่เซลล์ผิดปกติเดินทางอยู่ในกระแสโลหิตนั้นพบอวัยวะใด อ่อนแอเซลล์ผิดปกติก็จะเข้าโจมตีเพื่อยึดเป็นที่อยู่ เราเรียกอวัยวะที่ถูกเซลล์ผิดปกติเข้าไปทำลายนี้ว่า “มะเร็ง” แต่ถ้าในกระแสโลหิตมีเอ็นไซม์โปรติเอสอยู่จำนวน มากพอสมควร เซลล์ผิดปกติก็ไม่มีโอกาสที่จะไปทำลายและยึดเกาะกินอวัยวะที่อ่อนแอได้ เพราะเนื่องจากจะถูกเอ็นไซม์โปรติเอสเข้าไปย่อยเปลือกหุ้มเซลล์ผิด ปกติและเผยตัวเซลล์ที่แท้จริงออกมา ทำให้เม็ดเลือดขาวหรือเซลล์เพชฌฆาตเห็นและเข้าไปทำลายได้ทันที





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น