3/28/2554

ความรู้พื้นฐานเรื่อง เอนไซม์

ผลของการศึกษาเกี่ยวกับเอนไซม์ที่ควรทราบไว้เป็นความรู้พื้นฐาน คือ
  1. เอนไซม์เสริมไม่ถูกทำลายโดยกรด (Hydrochloric Acid) ในกระเพาะอาหารอย่างที่เคยเชื่อกันมาก่อน
  2. ใครก็ตามที่กินอาหารหุงต้ม (Cooked Food) หรืออาหารปรุงสำเร็จ (Processed Food) ต้องการเอนไซม์เสริมเพื่อช่วยย่อยอาหาร
  3. ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ในปัจจุบันค้นพบว่า บทบาทสำคัญอย่างเดียวของวิตามินคือ หน้าที่ในการช่วยเร่งให้เอนไซม์ทำงาน
  4. วิตามินและเกลือ แร่ ทำหน้าที่เป็นตัวคู่หูกับเอนไซม์ (Coenzyme) หมายความว่า ต้องอาศัยเอนไซม์เพื่อจะได้ทำหน้าที่ของวิตามินหรือเกลือแร่ได้สำเร็จ
การรักษาความสมดุลในร่างกาย ใช้หลักของกฎธรรมชาติที่ว่า “ของเหมือนกันจะรักษาของที่เหมือนกัน” (Like Cures Like) ซึ่งหมายความว่า สิ่งใดก็ตามที่ทำให้เกิดอาการในคนสุขภาพดี สิ่งนั้นก็ย่อมสามารถรักษาคนป่วยที่ขาดอาการอย่างนั้นได้ (A substance that causes certain symptoms in a healthy person with these same symptoms)

ในสภาวะสมดุลมีแร่ธาตุบางอย่างขาดไป ย่อมทำให้เสียสมดุลได้ ถ้าเราหามาเสริมเท่าจำนวนที่ขาด สมดุลร่างกาย(Homeostasis)ก็จะกลับคืนมาอย่างเดิม
 

ถ้าร่างกายขาดเอนไซม์ ก็หาเอนไซม์เสริมมากิน ก็กลับมาสู่สภาวะปกติ แต่บางคนขาดเอนไซม์ย่อยอาหารจึงมีลมในท้องมาก กลับไปรักษาอาการท้องอืด หายามาขับลม คือ ควบคุมอาการ เท่ากับซ่อนสาเหตุหรือโรคไว้ในตัว แทนที่จะรักษาต้นเหตุโดยหาเอนไซม์มากินทดแทนส่วนที่ขาดไป
 

กฎข้อแรกของชีวิตที่สั้นและง่ายคือ “อะไรก็ตามที่จำเป็นถ้ามันขาดไป (Inadequate) ก็หามาเสริมSupplement)" ก็จะป้องกันความแก่ก่อนวัยและป้องกันสุขภาพได้

สรุปได้ว่าเอนไซม์คือพลังของชีวิต (Enzyme is the Life Force)

ความสำคัญของเอนไซม์ คือการสร้างเฮโมโกลบิน(Hemoglobin)ในเม็ดเลือดแดง เพื่อนำออกซิเจนไปให้อวัยวะทั่วทั้งร่างกาย คนจำนวนมากกระดูกเปราะบางจากการกินอาหารที่ขาดเอนไซม์ ไม่สามารถนำแคลเซียมมาใช้ได้ โปรตีนไม่สามารถเปลี่ยนเป็นกรดอะมิโนเพราะไม่มีเอนไซม์ย่อยโปรตีน และร่างกายไม่อาจจะซ่อมแซมตนเอง หรือป้องกันอันตรายอันเกิดจากเชื้อโรค

Dr.Edward Howell ได้บรรยายในหัวข้อเรื่อง เอนไซม์กับการมีอายุยืนยาว (Enzyme and Longevity) ไว้ว่า การกินเอนไซม์เพิ่มเติม (หรือเอนไซม์เสริม)จะยืดอายุให้ยืนยาวได้ โดย ได้แยกหนูทดลองเป็น 2 กลุ่ม หนูกลุ่มที่หนึ่งกินอาหารดิบ (ซึ่งมีเอนไซม์สมบูรณ์)สามารถมีอายุยืน 3ปี ส่วนหนูอีกกลุ่มที่กินอาหารปราศจากเอนไซม์มีอายุเพียง 2ปี การกินอาหารที่ขาดเอนไซม์ทำให้หนูทดลองอายุสั้นลง ถึง 30เปอร์เซ็นต์ ถ้าเอาเรื่องนี้มาเปรียบเทียบกับชีวิตมนุษย์ก็หมายความว่า คนเราจะมีอายุยืนขึ้นอีก 30เปอร์เซนต์หรือเท่ากับ 20ปี เพียงแต่กินอาหารที่สมบูรณ์ด้วยเอนไซม์เท่านั้น

นักวิทยาศาสตร์ทั้ง หลายที่สนใจในวิชาเอนไซม์เริ่มยอมรับว่า เมื่อก่อนเข้าใจผิด คิดว่าเอนไซม์ในร่างกายของเรามีจำนวนคงที่ตลอดเวลา และมีให้ใช้ไม่รู้จักหมด (constant and last forever) คิดเอาเองว่าสามารถนำมาใช้ และใช้แล้วใช้อีกได้จนกระทั่งมีการวิจัยหลายครั้ง โดยกลุ่มนักชีวเคมี จึงรู้ว่าเอนไซม์ในร่างกายของคนเรามีจำนวนจำกัด มีวันเสื่อมสภาพ ถ้าใช้มากก็หมดเปลืองเร็ว  ถ้าเป็นโรงงานก็จะต้องหาแม่ปั๊มใหม่มาเปลี่ยน แต่ร่างกายคนเราไม่สามารถจะหาแม่ปั๊มใหม่มาเปลี่ยนได้ ชีวิตจึงสิ้นสภาพ

สิ่งแวดล้อมที่เต็มไป ด้วยมลพิษ ดินที่ปราศจากเกลือแร่ อาหารที่ปรุงสำเร็จ การใช้ไมโครเวฟทำอาหาร การทำงานหนัก ความเครียด เหล่านี้เป็นตัวทำให้เอนไซม์ โคเอนไซม์ไม่สมบูรณ์ บกพร่องทั้งในอาหารและในตัวของเราเอง เป็นอันตรายต่อสุขภาพและชีวิตได้

การแก้ปัญหาซึ่งง่าย เหมือนเส้นผมบังภูเขา “เมื่อขาดหามาเสริม” ด้วยการกินอาหารดิบ และสดให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถ้าทำได้ยากวิธีแก้คือ “กินเอนไซม์เสริม” (To offset this loss, we need to supplement our Life Force with oral enzyme supplement.)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น